รูปภาพของสุทธิรักษ์ สำราญ
เสื้อคลุมล่องหน
โดย สุทธิรักษ์ สำราญ - ศุกร์, 24 กรกฎาคม 2009, 02:17PM
 

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐ  พัฒนาวัตถุที่มีคุณสมบัติคล้ายเสื้อคลุมล่องหน ใช้เทคโนโลยีระดับนาโน วัตถุที่พัฒนาขึ้นนี้เมื่อนำไปเคลือบหรือคลุมสิ่งของทั่วไปจะทำให้แสงที่ตกกระทบสิ่งของถูกหักเห คนทั่วไปจึงมองสิ่งของไม่เห็น ราวกับว่าสิ่งของได้ล่องหนหรืออันตรธานหายไป 

ลองคิดดูว่ามีหลักการอะไรอีกบ้าง ที่สามารถทำเสื้อคลุมล่องหนได้


รูปภาพของTriZit  Benjaboonyazit
ตอบ: เสื้อคลุมล่องหน
โดย TriZit Benjaboonyazit - เสาร์, 1 สิงหาคม 2009, 08:04PM
 
น่าสนใจครับ ต่อให้แสงหักเหยังไง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมองทะลุไปได้
ถ้าบอกว่า ตัวเราคือความว่างเปล่า ก็พอน่าฟัง เพราะโมเลกุลของสสารเต็มไปด้วยที่ว่างระหว่างอิเล็กตรอนที่หมุนวนอยู่รอบๆนิวเคลียส ถ้ามีการค้นพบเทคโนโลยีที่มองทะลุผ่านเข้าไปในช่องว่างระหว่างอิเล็กตรอนที่หมุนวนอยู่รอบๆนิวเคลียส ก็คงจะเป็นไปได้ TRIZ คงไม่สามารถนำมาแก้โจทย์ในระดับ 5(การค้นพบเทคโนโลยีใหม่)ได้โดยตรง แต่ TRIZ สามารถพยากรวิวัฒนาการของระบบเทคโนโลยีได้ว่า จะมีความละเอียดมากขึ้นถึงระดับโมเลกุล

แต่ถ้าเรามองว่าเสื้อคลุมล่องหนนี้เป็นมายากลตบตาคนดู แล้วใช้ TRIZ คิดย้อนกลับว่าเป็นไปได้อย่างไร อาจใช้หลัการข้อ 5 การรวมเข้าด้วยกัน หรือ Combination คือ การนำภาพที่ถ่ายจากด้านหลังคนมารวมเข้ากับภาพที่มองเห็นจากด้านหน้า โดยเสื้อคลุมทำจากสารที่มีคุณสมบัติในการการสะท้อนแสงดีเยี่ยม ทำให้มองเห็นเสมือนหนึ่งว่า มองทะลุเข้าไปในคนได้ หลอกตาคนดูครับ เอาไปใช้เล่นกล หรือ เล่นหนัง Harry Potter ได้

How Invisibility Cloaks Work

by William Harris

Now let's put all of these components together to see how the invisibility cloak appears to make a person transparent. The diagram below shows the typical arrangement of all of the various devices and pieces of equipment.

how the whole system works illustration

Once a person puts on the cloak made with the retro-reflective material, here's the sequence of events:

  1. A digital video camera captures the scene behind the person wearing the cloak.
  2. The computer processes the captured image and makes the calculations necessary to adjust the still image or video so it will look realistic when it is projected.
  3. The projector receives the enhanced image from the computer and shines the image through a pinhole-sized opening onto the combiner.
  4. The silvered half of the mirror, which is completely reflective, bounces the projected image toward the person wearing the cloak.
  5. The cloak acts like a movie screen, reflecting light directly back to the source, which in this case is the mirror.
  6. Light rays bouncing off of the cloak pass through the transparent part of the mirror and fall on the user's eyes. Remember that the light rays bouncing off of the cloak contain the image of the scene that exists behind the person wearing the cloak.
The person wearing the cloak appears invisible because the background scene is being displayed onto the retro-reflective material. At the same time, light rays from the rest of the world are allowed reach the user's eye, making it seem as if an invisible person exists in an otherwise normal-looking world.
http://science.howstuffworks.com/invisibility-cloak3.htm
รูปภาพของสุทธิรักษ์ สำราญ
ตอบ: เสื้อคลุมล่องหน
โดย สุทธิรักษ์ สำราญ - จันทร์, 10 สิงหาคม 2009, 01:20PM
 

ผมเคยอ่านเจอ เสื้อผ้าที่เป็นลักษณะของจอ LCD ซึ่งตอนนี้ผลิตได้แล้ว อาจจะให้คนสวมเพื่อให้เป็นตัวแสดงภาพด้านหลัง ทำให้ดูเหมือนล่องหน โดยใช้หลักการเหมือนที่ อ.ไตรสิทธิ์ แสดงไว้