TRIZThailand.Community

วันก่อนได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์พูดเชิงตลกว่าบริษัท Apple ขโมยไอเดียในการทำ iPad มาจากกระดานชนวนของไทย ซึ่งถ้าดูจากรูปแล้ว ก็เห็นเป็นเช่นนั้นจริงๆ น่าเสียดายว่ากระดานชนวนของไทยเราขาดการสร้างสรรค์พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถสู้ฝรั่งที่พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆอยู่ตลอดจนกลายเป็น iPad ที่มีฟังก์ชันมากมายอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ถ้าเราได้เข้าใจกฏเกณฑ์ของวิวัฒนาการของระบบเทคโนโลยีของ TRIZ ไว้บ้าง เราจะสามารถเข้าใจทิศทางการพัฒนาของผลิตภัณฑ์ต่างๆว่าจะไปในทิศทางใด ทำให้สามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องกับทิศทางที่ควรจะเป็น เราลองมาวิเคราะห์วิวัฒนาการของกระดานชนวนดูว่าพัฒนามาสู่ iPad ได้อย่างไร และ แนวโน้มในอนาคตจะพัฒนานาต่อไปอย่างไร

กระดารชนวนเป็นที่นิยมใช้กันแพร่หลายเมื่อประมาณ 50-60 ปีที่แล้ว ในสมัยโบราณทำด้วยไม้ทองหลาง หรือไม้งิ้ว เพื่อให้ทารักติดแน่นดีโดยใช้ขี้รักผสมขี้เถ้าใบตองแห้ง เรียกว่าสมุก ทาให้เป็นสีดำ ต่อจากนั้น ใช้ผงกระเบื้องถ้วยที่ป่นละเอียด คลุกกับน้ำรัก ทาฉาบอีกครั้งหนึ่งให้เรียบเสมอกัน ขัดเงาด้วยหินหรือเมล็ดสะบ้า แล้วจึงทำกรอบด้วยไม้ โดยดินสอที่ใช้เขียนกับกระดานชนวน ใช้ดินสอพอง ต่อมาได้นำแผ่นหินชนวนสีดำมาใช้ทำกระดาน จึงเรียกว่า กระดานชนวน หน้าที่หลักของกระดานชนวนจะใช้สำหรับขีดๆเขียนๆทั้งตัวอักษรและรูปภาพ และยังสามารถลบหรือเก็บไว้อ่านหรือดูในภายหลังได้

ต่อมา ได้มีพัฒนากระดานไวท์บอร์ดขึ้นมาโดยใช้ปากกาเมจิกที่หมึกทำจากน้ำยาเคมีเขียนลงบนแผ่นฟิลม์ที่เคลือบอยู่บนผิวกระดานสีขาว ทำให้ใช้งานสะดวก ลบออกแล้วเขียนทับใหม่ได้ง่าย แต่เนื่องจากปากกาเมจิกมีราคาค่อนข้างแพงและต้องเปลี่ยนหมึกบ่อย จึงนิยมนำมาใช้ในห้องเรียนและสำนักงานมากกว่าที่จะนำไปใช้กับนักเรียนโดยตรง

เพื่อที่จะแก้ปัญหาหมึกหมดบ่อย ได้มีการคิดค้นกระดานผงแม่เหล็กโดยใช้ปากกาแม่เหล็กดูดผงเหล็กที่อยู่ด้านในของกระดานให้มาเกาะที่ผิวกระดานทำให้เห็นเป็นรอย สามารถนำมาใช้ขีดเขียนและวาดรูปแทนกระดานชนวนหรือกระดานไวท์บอร์ดได้ การลบก็สามารถทำได้ง่ายโดยใช้วิธีลากแปลงไม้กวาดที่อยู่ภายในกระดานให้กวาดผงเหล็กตกกลับไปในที่เดิมเพื่อนำมาใช้เขียนใหม่ได้

แม้ว่าจะมีการพัฒนากระดานผงแม่เหล็กให้เล่นได้หลากสีมากขึ้น แต่การใช้งานก็ยังไม่สะดวก และสีที่ได้อาจไม่สดใสมากนัก จึงเป็นโอกาสให้นักประดิษฐ์ได้คิดค้นนำเอาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิคของไดโอดเปล่งแสง(LED)มาใช้โดยใช้ร่วมกับปากกาเรืองแสงที่มีหลายสี เมื่อเปิดสวิทช์จ่ายไฟให้กับแผงที่ทำจาก LED อนุภาคโฟตอนจะถูกปล่อยออกมา　 ทำให้รูปภาพหรือตัวหนังสือที่เขียนไว้บนแผงจะเรืองแสงออกมาให้สีต่างๆสดใสชัดเจนแม้จะอยู่ในที่มืด และยังสามารถใช้ผ้าลบหมึกออกแล้วเขียนใหม่ได้ พ่อแม่อาจซื้อเป็นของขวัญให้ลูกๆหัดวาดภาพเพื่อสร้างสรรค์จินตนาการ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว กระดาน LED เรืองแสงนี้จะถูกนำไปใช้ทำป้ายโฆษณาตามร้านค้าต่างๆมากกว่า

ณ จุดนี้ หากเราจะลองนำกฏเกณฑ์แห่งวิวัฒนาการของระบบเทคโนโลยีของ TRIZ มาวิเคราะห์และพยากรณ์วิวัฒนาการของกระดานชนวน เราจะพบว่าการกำเนิดขึ้นมาแทนที่กระดานชนวนของ Tablet PC หรือ iPad นั้น ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายแต่ประการใดเลย
อัลต์ชูลเลอร์ วิศวกรชาวรัสเซียได้ค้นคว้าสิทธิบัตรต่างๆกว่า ๒ แสนฉบับ และได้ข้อสรุปว่า ระบบเทคโนโลยีไม่ได้พัฒนาไปอย่างเลื่อนลอย แต่มีรูปแบบ(Pattern)ของการพัฒนาอย่างเป็นระบบที่คล้ายคลึงกัน เราสามารถนำไปใช้พยากรณ์ทิศทางการพัฒนาของระบบเทคโนโลยีนั้นๆ หรือ เอาไปใช้วางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ Pattern ที่สำคัญมีอยู่ข้อหนึ่งที่ระบุว่า วิวัฒนาการของระบบเทคโนโลยีจะมุ่งไปสู่ระบบที่มีความละเอียดมากขึ้นและมีการใช้พลังงานหรือสนามที่มีความก้าวหน้ามากขึ้น(Evolution Towards Micro-Levels and Increased Use of Fields) ความละเอียดมากขึ้นในที่นี้อาจละเอียดมากลงไปถึงระดับโมเลกุล อะตอม หรืออิเล็กตรอนได้ สำหรับพลังงานที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นนั้นจะเริ่มจากพลังงานกลซึ่งถือว่าเป็นพลังงานขั้นพื้นฐาน ก้าวหน้าไปเป็นพลังงานเคมี แล้วเป็นพลังงานแม่เหล็ก พลังงานไฟฟ้า จนถึงพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งถือว่าเป็นพลังงานที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด
เมื่อลองไล่ดูวิวัฒนาการของกระดานชนวนตามลักษณะการใช้พลังงานจะพบว่ามีการใช้พลังงานที่ก้าวหน้ามากขึ้นตามกฏเกณฑ์แห่งวิวัฒนาการของระบบเทคโนโลยีของ TRIZ ตามที่สรุปในตารางข้างล่าง กระดาน Tablet PC หรือ iPad เป็นวิวัฒนาการขั้นสูงสุดโดยการใช้เทคโนโลยีดิจิตัลและการสื่อสารข้อมูลผ่านระบบไร้สายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

นอกจากจะใช้ขีดๆเขียนๆทั้งตัวอักษรและรูปภาพผ่านปลายนิ้วมือและใช้เก็บไว้อ่านหรือดูในภายหลังได้เหมือนกระดานชนวนแล้ว Tablet PC หรือ iPad ยังมีฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆอีกมากมายซึ่งก็สอดคล้องกับกฏเกณฑ์แห่งวิวัฒนาการของระบบเทคโนโลยีของ TRIZ อีกข้อหนึ่งที่ว่า วิวัฒนาการของระบบเทคโนโลยีจะมุ่งไปสู่การเพิ่มขึ้นของความเป็นอุดมคติ(Evolution Toward Increased Ideality) ซึ่งหมายความว่ามีฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์(Useful Function)เพิ่มมากขึ้นในขณะที่ฟังก์ชันที่เป็นโทษ(Harmful Function)จะลดน้อยลง เช่น มีฟังก์ชันการแชร์ข้อมูลกับเพื่อนๆแบบออนไลน์ ในขณะที่ราคา ขนาด หรือ การใช้พลังงานจะลดลง

วิวัฒนาการของ Tablet PC หรือ iPad ยังคงมุ่งไปสู่การเพิ่มขึ้นของความเป็นอุดมคติ เราคงจะได้เห็นฟังก์ชันการใช้งานที่แปลกๆใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น แต่คงไม่ใช่เอาไปใช้เป็นเขียงหั่นผักแบบที่มีคนล้อเลียนกัน ขอยกตัวอย่างเล่นๆตามที่วาดฝันไว้ คือ ใช้ iPad รับคลื่นสมองเพื่อการฝึกสมาธิ ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นเครื่องรับส่งโทรจิต(Telepathy)ในภายภาคหน้าได้