![]() | ตอบ: Separation Principle and Matrix |
ขอตอบครับ คำถามนี้ ค่อนข้างยาก อาจหาคนร่วมแสดงความเห็นได้ไม่ง่ายนัก คุณวิสันต์ก็อย่าเพิ่งท้อใจนะครับ คงต้องค่อยๆสร้างกระแสความสนใจไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีทรัพยากรมากเพียงพอที่คนพร้อมจะออกมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ตอนผมทำเว็บชุมชนคนรักบางแก้วใหม่ๆ ก็คุยกันอยู่ไม่กี่คนครับ เวลาผ่านไป 3 ปี มีสมาชิกร่วม 3,000 คน และมีอยู่ประมาณ 5 % ที่มาร่วมพูดคุยอย่างกระตือรือล้น เพียงเท่านี้(ประมาณ 100 กว่าคน) ก็สามารถสร้างความคึกคักให้กับชุมชนคนรักบางแก้วได้แล้ว ยังไม่นับผู้ที่แวะมาเยี่ยมเป็นครั้งคราว หรือ แอบอ่านอยู่เงียบๆโดยไม่ล็อกอิน อีกมาก ลองแวะไปชมได้ที่ http://www.bangkaew.com/elearning/ เรื่อง Separation in Time กับ Separation on Condition ต่างกันยังไงครับ |
![]() | ตอบ: Separation Principle and Matrix |
คำถามข้อนี้น่าสนใจ เพราะเท่าที่ผมศึกษา มาบางตำรา(เวลาน้อย แต่พอแบ่งมาคิดได้ตอนขับรถครับ) ไม่เขียนคำว่า Separation on Condition อย่ามองเป็นคำตอบนะครับ ขอเป็นแชร์ข้อมูลเพิ่มเติมดีกว่า 1 ในบางตำราใช้คำว่า Fundamental transformation แทน Separation principle และระบุการใช้สำหรับ Physical contradiction เช่นกัน 2 คำขยายความของ Separation in time Separate potentially conflicting properties in time,Try to regard any process as discontinuous. Find time intervals in which the potentially conflicting operations can be performed ลองแปลแล้วพอมองเห็นความต่างกับ Separation on Condition บ้างนะครับ 3 เฉพาะ Separation Principle อีกค่ายจะมีอีก 2 อย่างคือ Fundamental transformation in Structure อันนี้เหมือน Separation on parts and the Whole คล้ายๆเรื่องโซ่จักรยานที่ต้องเป็นSolid และ Flexibleในตัว และ Fundamental transformation in Material อันนี้ใกล้ Separation on Condition มากตัวอย่างเช่น เลนส์แว่นตาที่เปลี่ยนสีเมื่อเจอแสงจ้า และกลับมาเป็นเลนส์ใสเมื่อเข้าที่ร่ม หรืออีกตัวอย่าง เป็นเรื่องของแสงแฟลชกับอาการ Redeye ในเรื่องนี้ใช้การแก้ไขโดยให้มีแสงแฟลชนำ ก่อนแฟลชจริง แฟลงนำจะปรับม่านตาคนให้เล็กลง เป็นการลดอาการ Redeye จะมองเป็น Fundamental transformation in Material หรือ Separation on Condition ดีครับ ผมคิดเอาเองว่า มีความไม่เข้าใจในแต่ละขั้นตอนการแปล แม้กระทั่งลูกศิษย์ Altshuller เอง ให้ลองแปลคำว่า Separation vs. Fund. Transformation ดู สองคำนี้เหมือนจะเกิดคนละเวลา ถ้าไม่ยึดหลักการ การใช้ Separation หรือ Transformation ก็แก้ Physical Contradiction ได้เช่นกัน พรุ่งนี้จะมาเล่าอีก 9 หลักการที่ไม่ใช่ Separation & Transformation และใช้แก้ Physical Contradiction ได้ครับ หลายหลักการใน Separation ผมพบว่าลูกศิษย์ (คือไม่แน่ใจว่า Altshuller หรือลูกศิษย์มาแปลง) ได้Link ความสัมพันธ์ไว้กับ Technical Contradiction เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวผมพบว่าบางครั้ง Separation Principle ใช้ได้แบบ Stand alone โดยไม่ต้องใช้ Matrix ก็ได้นะครับ |
![]() | ตอบ: Separation Principle and Matrix |
ขอขอบคุณทุกความคิดเห็น และความพยายามในการพิมพ์อย่างมากครับ แต่ก็ยังไม่เคลียร์อยู่ดีสำหรับคำถามข้อแรก เนื่องจากตัวอย่างที่ยกมาก็เป็นตัวอย่างซ้ำๆที่เคยเห็นมาแล้ว ซึ่งอันที่จริง ตัวอย่างของการใช้ separation รู้สึกว่าจะมีไม่ค่อยมากนัก ผมคิดว่านี่เป็นปัญหาอย่างหนึ่งของการเรียนรู้ TRIZ เนื่องจาก TRIZ พยายามสร้างวิธีแก้ปัญหาแบบ universal ดังนั้นจึงต้อง define term ต่างๆให้เป็น generic ที่สุด ผลเสียก็คือความยากลำบากในการศึกษา TRIZ ในการเข้าใจความหมายและการประยุกต์ generic term เหล่านั้นให้สอดคล้องกับ specific problem ของเรา คิดว่าทางออกหนึ่งของผู้สอน TRIZ คือการถ่ายทอดเป็น example เพื่อล่อใจก่อน แต่ผลเสียที่ตามมาคือ ผู้ศึกษาจะยึดติดกับตัวอย่างนั้นมากเกินไป (เพราะง่าย) และไม่พยายามศึกษาทำความเข้าใจ generic term อย่างที่ผู้สอนตั้งใจ ผมเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกนั้นด้วย จึงยังคงอ่อนหัดอยู่แบบนี้ หลังจากที่ยังงงๆ ก็เลยกลับไปนั่งดู example มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ และพยายามนึกตัวอย่างใหม่ๆ แล้วพยายามเชื่อมโยง (เอาเอง) ว่า separation in time กับ condition มันต่างกันยังไง ก็พอได้ข้อสรุปดังนี้ ขอออกตัวก่อนว่าเป็นแค่ความคิดส่วนตัวเท่านั้นนะครับ อาจจะผิดไปบ้าง ผู้ใดเห็นข้อผิดพลาดกรุณาชี้แนะด้วย ขอบคุณครับ separation in time กับ on condition มันมีส่วนที่คาบเกี่ยวกันอยู่ อธิบายตามรูป set แล้วกัน |
![]() | ตอบ: Separation Principle and Matrix |
ต่อครับ อ่านแล้วผมเองก็งง ลองดูตัวอย่างแล้วกลับไปทำความเข้าใจที่เขียนเมื่อกี๊ใหม่นะครับ ไฟจราจร : user กำหนดได้ว่า เมื่อไหร่ต้องการให้มีรถวิ่ง เมื่อไหร่ไม่ต้องการให้มีรถวิ่ง ถ้าระบุแค่นี้ ก็เป็น separation in time เข็มขัดนิรภัย : รู้ว่าเมื่อเกิด impact ต้องฝืด และเมื่อไม่มี impact ต้องลื่น แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเกิด impact อันนี้เป็น condition Air bag : รู้ว่าเมื่อเกิด impact ต้องให้ air bag ทำงาน และเมื่อไม่มี impact ต้องเหมือนไม่มี air bag แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเกิด impact อันนี้เป็น condition แว่นกันแดด : รู้ว่าเมื่อ high light intensity ต้องมี filter property และเมื่อ low intensity ต้องไม่มี filter property แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีแสงจ้า อันนี้ก็เป็น condition ปากกา : (ตัวอย่างนี้ คิดเองครับ) ต้องการให้มีหมึกเมื่อใช้ และต้องการให้ไม่มีหมึกเมื่อไม่ใช้ (จะได้ไม่เลอะเทอะ) ถ้าระบุแค่นี้ ก็เป็น separation in time หมวกกันน็อค : (ปัญหาข้อที่แล้ว) ต้องใหญ่เมื่อใช้ และเล็กเมื่อเก็บ แน่นอนเป็น Time เท่าที่สังเกต พบว่า วิธีการแก้ปัญหาที่เป็น time จะใช้วิธีง่ายๆ หรือ principle ที่เห็นว่ามี function ของเวลาหรือ sequence การกระทำเข้ามาเกี่ยว เช่น prior action, anti-action, periodic action, partial/excess action, vibration, ... แต่วิธีแก้กรณี condition จะต้องการอะไรที่เป็น automation มากกว่า (เพราะมันไม่รู้ว่าเงื่อนไขนั้น จะเกิดเมื่อไหร่) จะต้องการหลักการที่เกี่ยวกับการเปลี่ยน property หรือ feedback เช่น parameter change, phase change, colour change, mechanical substitution, feedback.... ซึ่งยากกว่ากรณี Time ธรรมดา ให้ทำใจไว้เลย แต่คำตอบดูเจ๋งกว่าแน่นอน ดูตัวอย่างปากกาดีกว่า ซึ่งเป็นได้ทั้ง time และ condition จะให้ solution ต่างกันยังไง ถ้ามองว่าเป็น time ก็คงใช้วิธีง่ายๆ คือ เมื่อไม่ใช้ ก็ใส่ปลอกซะ เมื่อใช้ก็ถอด หรือไม่ก็เอาแบบกดให้ปลายปากกาโผล่เมื่อจะใช้ แค่นั้นเอง แต่ถ้ามองเป็น condition ว่าใช้ shear ก็คงจะคิดเลยเถิดไปถึงการ rolling และแล้วปากกาลูกลื่นก็ถือกำเนิดขึ้น โดยใช้ ball เป็นตัว transfer หมึกในเบ้าที่ทำหน้าที่เหมือน seal และแบบเจ๋งกว่าก็คือใช้หมึกที่เป็น thixotropic คือ low viscosity เมื่อมี shear (ink transfer ได้ดี) และ high viscosity เมื่อไม่มี shear (seal ได้ดี) พูดถึงเรื่องนี้ คิดถึง solder paste ที่ใช้ในวงการ SMT PCB assembly ที่ผมเคยคุ้น คือ ต้องเหลวเมื่อ print (apply shear) และหนืด maintain shape ได้เมื่อ remove shear แล้ว ได้ตัวอย่าง physical contradiction ที่เป็นทั้ง time และ condition อีกแล้วครับท่าน นอกจากนั้น ตัว solder paste เองยังมีใช้หลักการของ TRIZ อีกตั้งหลายอย่าง ผมคิดว่าคนที่คิด solder paste ได้คนแรก นับว่าเก่งสุดยอดจริงๆ จริงๆ physical contradiction ของปากกายังมีอีกนะครับ สมัยที่เป็นปากกาหมึกซึม ใช้หลักการ gravity กับ capillary เขาต้องการน้ำหมึกที่แห้งช้า เพื่อไม่ให้อุดตันหรือแห้งติดปลาย แต่ก็ต้องการน้ำหมึกที่แห้งเร็ว เพื่อว่าเขียนแล้ว จะไม่เลอะเทอะ (รู้สึกว่าจะแก้ contradiction นี้ไม่ได้ และก็ยอมใช้หมึกแบบน้ำแห้งช้า จนกระทั่งมาเป็นปากกาลูกลื่น ที่ใช้หมึกแบบหนืดแห้งเร็วแทน) ผมรู้ซึ้งเรื่องเลอะนี้ดี เพราะดันถนัดมือซ้าย เวลาเขียนปากกาหมึกซึมจะเลอะเทอะทั้งมือทั้งกระดาษไปหมด ยิ่งปากกาคอแร้ง (ถ้าจำชื่อไม่ผิด) (แบบที่ต้องคอยจุ่มน้ำหมึกตลอด ใช้คัดลายมือภาษาอังกฤษ คนรุ่นใหม่รู้จักไหม) ยิ่งรันทดใหญ่ ต้องตีลังกาเขียน ไม่งั้นเขียนไม่ออก โดนครูบ่นประจำ พวกคนมือขวาไม่รู้หรอกว่าคนมือซ้ายต้องเจออะไรมาบ้าง (มีต่ออีก ยังพล่ามไม่จบ) |
![]() | ตอบ: Separation Principle and Matrix |
(ตอนสุดท้ายแล้ว ทนอีกนิด) รู้สึกว่าจะเข้าป่าไปแล้ว ไหนๆก็มั่วมาถึงป่านนี้แล้ว ถ้าคิดเลยเถิดต่อไป ก็พบว่า separation in space ก็มีส่วน intersect กับ condition เหมือนกัน คำอธิบายก็คงคล้ายๆกับกรณี time ก็ขอตอบต่อเลยว่า ปัญหาข้อพัดลม ที่พัดให้มีลมในตำแหน่งที่มีคนเท่านั้น อันนี้เป็น separation on condition ในแง่ของ space ครับ เห็นมีสมาชิกหลายท่าน บอกว่าสนใจ TRIZ กำลังเริ่มศึกษาอยู่ (ขอให้จริงเหอะ) รู้สึกยินดีมากที่เมืองไทยจะมีนักคิดเก่งๆมาสร้างเทคโนโลยีที่เหมาะสมของตัวเองในอนาคต ไม่ต้องไปเป็นเบ๊ขี้ข้าพวกต่างชาติ ได้แค่ค่าแรง ก็ขอฝากให้ข่วยกันลองหาตัวอย่าง physical contradiction อื่นๆมาดูนะครับ แล้วดูว่า นิยามแบบมั่วๆของผม มันใช้ได้ทุกกรณีหรือเปล่า ถ้าผิดจะได้ปรับปรุงแก้ไขต่อไป ที่สำคัญลองดูด้วยว่าเขาแก้ปัญหา physical contradiction กันด้วยวิธีไหน อย่าไปยึดติดในกรอบแค่ example ที่มีในหนังสือ หรือในบทความ ฝึกมองของรอบๆตัวแหละครับ ให้มองย้อนไปถึงวิวัฒนาการของมันในแต่ละรุ่น เช่น ปากกาขนนก --> ปากกาคอแร้ง--> ปากกาหมึกซึม --> ปากกาลูกลื่น ว่ามันถูกพัฒนากันเรื่อยมาเพื่อแก้ปัญหา contradiction แบบไหน, technical หรือ physical, ระหว่าง parameter อะไรกับอะไร, แล้วเขาแก้โดยใช้ principle ข้อไหน หาอ่านดูใน internet แหละครับ ไอ้พวก product ใหม่ๆที่ชอบโม้อวดอ้างว่าดีกว่าแบบอื่นยังไง นี่แหละตัวอย่างฝึก TRIZ ชั้นดีเลย ยิ่งลองคิดเองมากเท่าไหร่ จะยิ่งเข้าใจพวก generic term ต่างๆ ได้ลึกซึ้งขึ้น เออ จริงๆผมก็มวยวัด ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือเป็นครูบาอาจารย์อะไรซักหน่อย แล้วมีหน้าอะไรมาเสนอแนะ ถ้างั้น ก็ขอให้ลองไตร่ตรองดูก่อนแล้วกัน อย่าเพิ่งเชื่อนะ การพิมพ์นี่ใช้เวลามากจริงๆ จริงๆตั้งใจว่าจะพยายามเข้าไปตอบมันทุกกระทู้ เห็นแว้บๆ เรื่องไล่แมลงก็ยังไม่ได้ตอบ แต่แม่น้องเพนกวินบ่นแล้ว นั่งจิ้มดีดอยู่ทั้งวัน ไม่ทำมาหากิน ดึกแล้ว พรุ่งนี้ต้องกลับบ้าน เห็นทีต้องไปล่ะครับ สวัสดีครับ (จบซะที) |
![]() | ตอบ: Separation Principle and Matrix |
เยี่ยม ทำให้ได้มุมมองที่กว้างขึ้น |
![]() | ตอบ: Separation Principle and Matrix |
เขียนก่อนนะครับ ที่ค้างไว้หลายวัน หัวข้อต่อไปนี้เป็นอีกมิติหนึ่งดูเผินๆจะเหมือน Separation แต่ดูดีๆจะเหมือนมองคนละมุมครับ (เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ) สำหรับตัวอย่างบางอันจำเค้ามา บางอันคิดเอง สังเกตุได้ว่าอันไหนที่ดูแปร่งๆ ผมคิดเองครับ เรื่องของ การแก้ไขข้อขัดแย้งแบบ Physical มีเพิ่มเติมคือ 1 การควบรวมของระบบ System ไปสู่ Supersystem ตัวอย่าง อันนี้ใช้ Airbag ได้ เลย อยากมีหมอนไว้กันกระแทก แต่ก็ไม่อยากมีหมอน คาไว้หน้าพวงมาลัย มองหยาบๆก็ต้องมีระบบย่อยมารวมตัวเพื่อแก้เรื่องนี้ เช่น ระบบ Sensor/Gas containing/และ หมอน (Airbag) นั่นแหละครับ 2 ใช้การรวมตัวกันของหลายระบบด้วยตัวต้านการทำงานของระบบ Anti System ตัวอย่าง เปิดตู้เย็นดูที่ช่อง Freeze นะครับ อยากให้เย็น แต่ไม่อยากให้น้ำแข็งเกาะ ก็เลยมีตัวละลายน้ำแข็ง 3 ได้คุณลักษณะจำเพาะหนึ่งๆ จากลักษณะจำเพาะที่ต้านคุณสมบัตินั้นๆ ตัวอย่าง เครื่องตัด (เล็ม) หญ้าที่ใช้เอ็นเป็นคมตัด เดิมใช้ใบมีดก็แข็งแรงเกินไป ที่เหลือคิดต่อเองนะครับ.... 4 เปลี่ยนสถานะ ตัวอย่าง อาหารหลายชนิดไม่สามารถเก็บ และ รอการขายนานๆได้ ขณะที่เวลาผู้บริโภคจะซื้อหา ก็ต้องการเฉพาะของที่ดีอยู่ การ "แช่แข็ง" อาหารเป็นความพยายามลดการขัดแย้งดังกล่าว หรือพวกน้ำดื่มที่ต้อง Pack ลงขวดหรือกล่อง ก็มองเป็นการเปลี่ยนสถานะได้ มั้งครับ 5 การเปลี่ยน Physical Contradiction ให้ทำงานในระดับ Micro Level ตัวอย่าง กล่องนม ที่มีรูเจาะเล็กๆ ไว้ใส่หลอด (ต้องลองย้อนความขัดแย้งเองนะครับ)หรือ กระเป๋าสะพายที่มี ซิปหลายๆอัน (ดูท่าจะไม่เวิร์คนะตัวอย่างนี้) จุกน้ำปลาที่มีรูเล็กๆ ก็ได้เช่นกัน 6 หาอะไรซักอย่างที่ปรับตัวทำงานได้ทั้งสองเงื่อนไขที่ขัดแย้งกัน ตัวอย่าง ซิลิโคนที่หุ้มโทรศัพท์มือถือ อลูมิเนียม ที่แปรรูปง่ายกว่าเหล็ก แต่สามารถทำ Heat Treatment T6 etc.. หรือ ไม่ต้อง Treat (บ่ม และปล่อยให้ Crytal Growth ตามธรรมชาติ) และได้ความแข็งแรงเพียงพอ 7 ใช้ปรากฏการณ์ธรรมชาติเข้ามาช่วย ตัวอย่าง ฝุ่นบนหลังคาบ้าน รอฝนตกก็ได้ครับ สูงสุดคืนสู่สามัญ ไปทานข้าวก่อนครับ เดี๋ยวมาตอบต่อ |
![]() | ตอบ: Separation Principle and Matrix |
อีกนิดนึงครับ 8 ลักษณะ Decomposition / Composition ตัวอย่าง Packaging สำหรับบรรจุอาหาร บางชนิดต้องการไม่ให้มีความชื้นเข้าไป ถ้าเป็นกระป๋องก็จบ แต่ถ้าเป็นถุงกระดาษหรือ พลาสติก ซึ่ง Flexible กว่ากระป๋อง เบากว่าและอาจจะถูกกว่า แต่มีข้อเสียตรง ความชื้นผ่านได้ การ Decomposite ของวัสดุประเภท Alloy (Aluminum/ หรือวัสดุคล้ายๆกัน) ให้เป็นไอ และวิ่งไปเกาะผิวพลาสติก (บนถุงขนมขบเคี้ยว) วัสดุที่ Flexible ก็จะกันความชื้นได้ครับ |
![]() | ตอบ: Separation Principle and Matrix |
คุณ Wison = มวยวัด ? วัดไหนครับ ผมว่าเส้าหลินนะเนี่ย ถ้าคีย์ของ TRIZ คือ Reinvent ผมว่าวิธีที่ Altshuller คิด คุณ Wison ก็คิดแบบเดียวกันอยู่ ช่วงนี้ผมพบคนที่คิดแบบ TRIZ แต่ไม่รู้ตัวหลายท่านครับ ผมก็ต้องปรับปรุงตัว แวะมา Update บอร์ดบ่อยๆ เพราะหลายครั้งคิดอะไร ที่เทียบเคียงทฤษฎีของ TRIZ ได้ แต่ไม่ได้บันทึก สักพักก็ลืม |